logo thai leaguelogo thai leaguelogo thai leaguelogo thai league
  • HOME
  • Fixtures
  • Resulte
  • Tables
  • Clubs
  • News
  • Players
  • Head-Coaches
✕
6 ตำนานนักเตะไทย ชุดดรีมทีม สู่ตำแหน่งโค้ช ในยุคปัจจุบัน
6 ตำนานนักเตะไทย ชุดดรีมทีม สู่ตำแหน่งโค้ช ในยุคปัจจุบัน
มิถุนายน 23, 2021
รีวิว W88 เว็บแทงบอลจ่ายจริง เดิมพันน้อยแต่จ่ายสูงด้วยราคาน้ำที่ให้ได้มากที่สุด
รีวิว W88 เว็บแทงบอลจ่ายจริง เดิมพันน้อยแต่จ่ายสูงด้วยราคาน้ำที่ให้ได้มากที่สุด
มกราคม 11, 2022
Published by thaileague football on กันยายน 20, 2021
Categories
  • Uncategorized
Tags
6 นักหวดลูกหวาย จ้าวแห่งตะกร้อไทย แถมหล่อไม่เป็นรองใครในสังเวียน

6 นักหวดลูกหวาย จ้าวแห่งตะกร้อไทย แถมหล่อไม่เป็นรองใครในสังเวียน

ดีกรีการฟาดไม่เป็นรองใคร ฟาดแรง ฟาดไม่ยั้ง ต้องยกให้ 6 นักหวดลูกหวาย จ้าวแห่งตะกร้อไทย แถมหล่อไม่เป็นรองใครในสังเวียน! ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าหน้าตาและความหล่อคือ เส้นทางการมาเป็นนักตะกร้อของไทย ที่พาทีมและตัวเองไปต่ออย่างสุดความสามารถจนก้าวไปถึงทีมชาติได้สำเร็จ ว่าแต่ใครเป็นใคร มีดีกรีท่าฟาดอันงดงามอย่างไร ทำไมบางคนก็กลายเป็นตำนานในวงการกีฬาไทย ติดตามอ่านได้ในบทความนี้

อันดับ 1 : พรชัย เค้าแก้ว

1 พรชัย เค้าแก้ว

ตำนานจอมฟาดอันดับ 1 นักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ที่ถูกขนานนามว่า “ราชาหน้าตาข่าย” เขาผู้นี้ คือ พรชัย เค้าแก้ว วัย 38 ปี นักหวดจากจังหวัดขอนแก่น ที่รับใช้ทีมชาติในฐานะจอมฟาดนักโหดมานานเกือบ 20 ปี เป็นหนึ่งไม่กี่คนของวงการกีฬาตะกร้อที่เล่นให้กับทีมชาติมานาน แต่ระดับความเก่งกาจก็ไม่ลดลงจนอายุแตะ 4 การันตีผลงานจากการพาทีมตะกร้อไทยสู่ทุกความสำเร็จในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น คว้า 10 เหรียญทอง ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ วินาทีนั้นเขากลายเป็นนักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นตำนานที่ปัจจุบันก็ยังคงลงเล่นกีฬาชนิดนี้อยู่ในสังเวียนสนามตะกร้อ

อันดับ 2 : วิรัช โพธิ์ม่วง

2 วิรัช โพธิ์ม่วง

แม้จะอำลาวงการตะกร้อไปนานกว่า 30 ปี แล้วแต่เขาก็ยังอยู่ในใจแฟน ๆ ของคนไทยเสมอ “ดำ อำมหิต” หรือ วิรัช โพธิ์ม่วง อีก 1 นักฟาดถึงเลือดจากเมืองพิษณุโลกสองแคว รุ่นเดอะ จากผลงานที่ผ่านมาเขาพาทีมชาติไปคว้าเหรียญเงินที่ศึกเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อปี 1990 และซีเกมส์ครั้งที่ 16 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในยุครุ่งเรืองลีลาการฟาดของเขาไม่เป็นรองใคร ฟาดหนัก ฟาดแรง ฟาดรัว ๆ ทำให้คู่ต่อสู้ต้องมีร่องรอยฟกช้ำ ดำเขียว บางรายถึงมีเลือดจากการร่วมแข่งกับเขาไปตาม ๆ กัน และถูกให้เป็นคู่ปรับกับมาเลเซียมาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครที่จะเข้ามาต้านทานลูกฟาดของเขาได้เลย รู้แล้วใช่ไหมว่า “ดำ อำมหิต” นั้นได้แต่ใดมา!

อันดับ 3 : พูนศักดิ์ เพิ่มทรัพย์

3 พูนศักดิ์ เพิ่มทรัพย์

อีก 1 อดีตนักตะกร้อที่ฟาดสวยที่สุดในวงการกีฬาไทย จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พูนศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ นักตะกร้ออันดับที่ 3 ตัวฟาดแห่งเซปักตะกร้อทีมชาติไทยในยุค 90 แม้จะไม่ได้เล่นมานานกว่า 18 ปี แล้ว ทว่าลีลาการฟาดอันสวยงามคล้ายการเล่นกีฬายิมนาสติกก็ไม่ปาน ยังคงติดตาตรึงใจแฟนกีฬาตลอดมา นอกจากท่าที่สวยงามแล้วการขึ้นฟาดของเขายังมีหลายท่วงท่า อย่าง การแตะหยอด ที่ทำให้คนไทยจดจำได้ เขาก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลในวงการกีฬาไทยที่ทำให้นักกีฬารุ่นหลัง ๆ ได้ยึดถือเป็นแบบอย่างในการเล่น

อันดับ 4 : อิทธิพล คมชัยศักดิ์

4 อิทธิพล คมชัยศักดิ์

ย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว “โอ่ง” อิทธิพล คมชัยศักดิ์ คือหนึ่งในตัวฟาดตัวหลักของทีมตะกร้อไทยในยุคนั้น และพาทีมหวายไทยประสบความสำเร็จหลายรายการ แม้ในศึกเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งเป็นเอเชียนเกมส์หนแรกที่ตะกร้อถูกบรรจุแข่งขัน จะได้เพียงเหรียญเงินก็ตาม ด้วยลีลาการฟาดด้วยเท้าขวาที่สวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ จึงทำให้อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทยรายนี้ เป็นหนึ่งในตัวฟาดขวัญใจของแฟนกีฬาชาวไทยทั้งประเทศ ตลอดช่วงเวลาที่เขารับใช้ชาติ สำหรับจุดเด่นการขึ้นฟาดของ อิทธิพล คมชัยศักดิ์ จนทำให้แฟนตะกร้อยุคนั้น ต่างชื่นชอบและหลงไหลไปตามๆกันก็คือ การขึ้นฟาดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งหนักและเบา จนบล็อกคู่ต่อสู้จับทางไม่ถูก โดยเฉพาะการขึ้นแตะหยอดซ้าย จนกลายเป็นท่าเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

อันดับที่ 5 : ภูตะวัน โสภา

5 ภูตะวัน โสภา

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภูตะวัน โสภา นักตะกร้อดาวรุ่งวัย 20 ปี เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในวงการตะกร้อตอนนี้ หลังจากที่มีรายชื่อเข้าไปเก็บตัวกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ เขาถือเป็นนักตะกร้อที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งที่อายุยังน้อย การันตีความเก่งกาจด้วยการกวาดแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน ทั้งการพาทีมสโมสรตะกร้อปทุมธานี-อินทรีเจ้าเวหา คว้าแชมป์ตะกร้อไทยแลนด์ลีก และการช่วยสโมสรตะกร้อทหารอากาศ เขาเป็นนักตะกร้อที่แฟน ๆ ต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นเขาพัฒนาฝีมือ เพื่อขึ้นไปทดแทนดาวค้างฟ้าอย่าง “พรชัย เค้าแก้ว” และเส้นทางของเขาก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

อันดับ 6 : อนุวัฒน์ ชัยชนะ

6 อนุวัฒน์ ชัยชนะ

ถ้าพูดถึงทีมเซปักตะกร้อไทย ก็ต้องนึกถึงเขาด้วยเช่นกัน “เดอะคิลเลอร์บี” อนุวัฒน์ ชัยชนะ นักตะกร้อร่วมสังกัดกองทัพบก ตัวฟาดตัวหลักของทีมที่มีเอกลักษณ์การฟาดที่เฉียบขาดและคุณภาพ เนื่องจากมีตัวฟาดถึงสองคน โอกาสลงแข่งขันร่วมกันกับ พรชัย เค้าแก้ว “ราชาหน้าตาข่าย” นั้นไม่สามารถทำได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่มีตัวฟาดมากฝีมือร่วมอยู่ในทีมเดียวกัน ถือเป็นเกราะชั้นเยี่ยมที่ทำให้ชาติอื่นไม่สามารถต้านทานศักยภาพทีมนักหวดลูกพลาสติกไทยได้

จบลงไปแล้วกับ 6 นักหวดลูกหวาย จ้าวแห่งตะกร้อไทย แถมหล่อไม่เป็นรองใครในสังเวียน คิดว่าแฟน ๆ นักกีฬาไทยคงเห็นหน้าค่าตาของเขาเหล่านี้ผ่านทางโทรทัศน์กันมาบ้างแล้วเวลามีการแข่งขันแชมป์ตะกร้อต่าง ๆ และรู้ดีกรีความเก่งกาจอยู่พอสมควร แต่เมื่อพูดถึงกีฬาประเภทนี้ ก็คงไม่พูดถึงอุปกรณ์ที่นักกีฬาใส่ไม่ได้ และ 1 อุปกรณ์ที่สำคัญของนักกีฬาคงหนีไม่พ้น “รองเท้า” สิ่งสำคัญหลัก ๆ รองจากทักษะและความชำนาญในการแข่งขัน เพราะขณะที่ผู้เล่นกระโดดฟาดกลางอากาศจนกว่าร่างกายจะกระทบถึงพื้นนั้น รองเท้าต้องดี ไม่ลื่น ยึดเกาะกับพื้นได้อย่างมีคุณภาพ แต่มีไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่พูดชื่อขึ้นมาแล้วทุกคนจะต้องร้องอ๋อทันที แม้ไม่เคยเล่นกีฬาตะกร้อมาก่อนเลยก็ตาม


ใช้ยี่ห้ออื่นได้ไหม? ทำไมต้องเป็น “นันยาง” ที่ใส่เตะตะกร้อ

ใช้ยี่ห้ออื่นได้ไหม? ทำไมต้องเป็น “นันยาง” ที่ใส่เตะตะกร้อ

ยังจำได้ไหม? เสียง เอี๊ยด…เอี๊ยด… ของรองเท้าพื้นเขียวในตำนานที่คุ้นเคย ก่อนที่เราจะตั้งคำถามว่าทำไม “นันยาง” ถึงเป็นยี่ห้อรองเท้าที่ใช้ในการเล่นตะกร้อ? หรือ แล้วแบรนด์ดังฝั่งยุโรปอย่าง Nike หรือ Adidas ล่ะใช้ได้ไหม? ก็ขอย้อนกลับไปในอดีตที่ต้องบอกว่ารองเท้ายี่ห้อนี้ มีจำหน่ายและอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนานกว่า 70 ปี ถูกซื้อถูกใส่จากผู้คนในหลากหลายอาชีพ ตั้งแต่ นักเรียน นักศึกษา ผู้ใหญ่วัยทำงาน ไปจนถึง นักกีฬาเซปักตะกร้อระดับสมัครเล่นยันระดับทีมชาติ ก็มักใช้รองเท้ายี่ห้อนี้ ด้วยความที่ราคามันจับต้องได้จึงทำให้สินค้าชนิดนี้เข้าถึงคนทุกกลุ่มทุกวัย ซึ่งความจริงแล้ว นันยางก่อนจะนิยมใช้ใส่เตะตะกร้อ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใส่เล่นแบดมินตันในไทย?!

แรกเริ่มเดิมที ก่อนที่จะมาเป็นรองเท้านันยาง มันมีชื่อยี่ห้อว่า หนำเอี๊ย เป็นรองเท้าสัญชาติสิงคโปร์ โดยตัวรองเท้าและพื้นยางจะเป็นสีน้ำตาลทั้งหมด ต่อมาในภายหลัง นายห้าง วิชัย ซอโสตถิกุล ผู้ก่อตั้งกิจการนันยาง ก็ได้ทำการซื้อกิจการเพื่อนำเปิดเป็นโรงงานผลิตในไทย ในปี พ.ศ. 2496 แต่จุดเปลี่ยนของกิจการ คือ การที่ทายาทรุ่นลูกอย่าง คุณเพียรศักดิ์ ซอโสตถิกุล บุตรชายคนโต ของนายวิชัย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ขณะนั้นคุณเพียรศักดิ์ ได้เดินทางกลับไทยหลังจากไปร่ำเรียนที่ประเทศอังกฤษ และกลับมาพร้อมกับความรักในกีฬาแบดมินตัน

คุณเพียรศักดิ์ ได้เปลี่ยนความหลงใหลที่มีในกีฬาแบดมินตัน สู่การสร้างรายได้ให้กิจการของครอบครัว ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปทรงรองเท้าจากเดิมที่เป็นสีน้ำตาลให้เป็นพื้นรองเท้าสีเขียว ตามสีของรองเท้าแบดมินตันในยุคนั้น รองเท้ารุ่นนี้มีรหัสในการผลิตว่า 205-S แต่กลายเป็นว่ารองเท้าที่ตั้งใจจะออกแบบสำหรับเล่นแบดมินตัน ได้ขยายความนิยมไปสู่คนหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่เด็กนักเรียน ยันนักกีฬาตะกร้อระดับทีมชาติ ตั้งแต่นั้นถือเป็นจุดกำเนิดของรองเท้าพื้นยางสีเขียว ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความทนทาน ใส่สบาย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ตอกย้ำความเป็นแบรนด์ที่ต้องคู่กับกีฬาตะกร้อขึ้นไปอีก เมื่อ พรชัย เค้าแก้ว นักเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรองเท้ายี่ห้อนี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้เลือกนันยางคือ ราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าใครก็สามารถหาซื้อมาใส่เพื่อเล่นตะกร้อได้ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นที่ว่าเรื่องของราคา เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยไหน นันยางก็เป็นรองเท้าที่ไม่แพง อยู่ในช่วงราคาประมาณ 300 บาท ด้วยคุณภาพของยางรองเท้าที่ทำมาจากยางพาราธรรมชาติแท้ 100 เปอร์เซนต์ เกาะพื้นได้เป็นอย่างดี มีความเหนียวทนทาน เล่นได้ทุกท่า ไม่ว่าจะเป็นเตะ ชง เสิร์ฟ หรือแม้แต่กระโดดลอยตัวกลางอากาศ ก็ยึดพื้นได้ดี พื้นกระทบเท้าก็ไม่ลื่น หากเทียบกับราคาแล้วก็คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย สามารถใส่เล่นตะกร้อได้อย่างสบาย ๆ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมนันยางถึงครองใจคนไทยแบบไร้คู่แข่ง และไม่ใช่แค่นักกีฬาตะกร้อเท่านั้นที่เลือกใช้รองเท้าของยี่ห้อนี้

ref

  1. https://www.nanyang.co.th/legend_story.php
  2. https://www.mainstand.co.th/1658
Share
0
thaileague football
thaileague football

Related posts

5 นักกีฬารักบี้หนุ่มไทย อนาคตไกล น่าจับตามองทั้งเก่งทั้งหล่อหลากหลายสไตล์
มกราคม 28, 2022

5 นักกีฬารักบี้หนุ่มไทย อนาคตไกล น่าจับตามองทั้งเก่งทั้งหล่อหลากหลายสไตล์


Read more
รีวิว W88 เว็บแทงบอลจ่ายจริง เดิมพันน้อยแต่จ่ายสูงด้วยราคาน้ำที่ให้ได้มากที่สุด
มกราคม 11, 2022

รีวิว W88 เว็บแทงบอลจ่ายจริง เดิมพันน้อยแต่จ่ายสูงด้วยราคาน้ำที่ให้ได้มากที่สุด


Read more
6 ตำนานนักเตะไทย ชุดดรีมทีม สู่ตำแหน่งโค้ช ในยุคปัจจุบัน
มิถุนายน 23, 2021

6 ตำนานนักเตะไทย ชุดดรีมทีม สู่ตำแหน่งโค้ช ในยุคปัจจุบัน


Read more
Copyright © - Thai League Football